วิธีเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่ทุกคนต้องรู้!
ปัจจุบันการติดฟิล์มรถยนต์เป็นที่แพร่หลายอย่างมาก และถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน เพราะภูมิอากาศของเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทั้งยังมีแดดจัดที่อาจเป็นอันตรายต่อสายตาและผิวหนัง เพราะฉะนั้น การเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ รวมถึงการเลือกระดับความเข้มของฟิล์มกรองแสงให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ และควรคำนึงถึงอย่างมาก
สนใจดูความเข้มฟิล์มกรองแสงของจริง เรายินดีให้คำปรึกษาครับ
Line:@SolarFX
ทำไมการเลือกความเข้มฟิล์มติดรถยนต์จึงสำคัญ?
การเลือกระดับความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์นั้น มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากฟิล์มกรองแสงมีหลายความเข้มและหลายเฉดสี ซึ่งความเข้มในแต่ละระดับจะส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ขับขี่ในแต่ละช่วงเวลาแตกต่างกัน
แล้วคุณจะเลือกฟิล์มติดรถอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับการขับขี่ของตัวเองที่สุด? ก่อนการติดตั้งฟิล์มรถยนต์นั้น ช่างติดฟิล์มจะถามถึงความเข้มที่ผู้ใช้รถต้องการ ความเข้มที่พูดถึงจะนิยมพูดกันในวงการฟิล์มกรองแสงนั้น จะเรียกทั่วไปว่า 40% 50% 60% หรือ 80% เป็นต้น
ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะติดฟิล์มรถยนต์ที่ความเข้มแบบไหนดี คุณต้องรู้ถึงความต้องการของตัวเองเป็นอันดับแรก โดยปกติผู้ใช้รถจะคำนึงถึงหลักสำคัญ 4 ประการคือ
- ความเป็นส่วนตัวภายในรถ
- การป้องกันรังสีความร้อน
- ทัศนวิสัยการมองเห็นจากภายในรถยนต์ (ทั้งกลางวันและกลางคืน)
- ความสวยงามของรถยนต์หลังติดตั้งฟิล์มกรองแสง
1. ดูความเป็นส่วนตัวภายในรถ
- ระดับความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามเปอร์เซ็นต์การส่องผ่านของแสง ยิ่งฟิล์มมีความเข้มมากแสงจะทำให้แสงส่องผ่านเข้ามาภายในห้องโดยสารได้น้อย ทำให้ห้องโดยสารมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- ดังนั้นสำหรับรถที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง วิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์ที่เหมาะสมจึงควรเลือกติดฟิล์มที่มีความเข้มสูง เช่น 80% โดยจะติดเป็นรอบคัน 80% และบานหน้า 60% เนื่องจากบานหน้าเป็นบานกระจกที่สำคัญต่อทัศนวิสัย จึงนิยมติดตั้งฟิล์มแค่ความเข้มสูงสุด 60%
- ส่วนผู้บริโภคที่ชอบความเป็นส่วนตัวภายนอกแต่คมชัดจากด้านในก็มักจะเลือกฟิล์มที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีสูงเช่นจำพวกฟิล์มกรองแสงแบบนาโนเซรามิค จะช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้นได้ แม้จะติดฟิล์มเข้มนั่นเอง
2. การป้องกันรังสีความร้อนจากฟิล์มกรองแสง
- ปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ของการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์คือเรื่องความร้อน เนื่องจากเมืองไทยเป็นประเทศที่มีอากาศค่อนข้างร้อนทำให้ผู้บริโภคนิยมเลือกใช้ฟิล์มติดรถยนต์ที่กันความร้อนได้สูง ควรจะเลือกฟิล์มที่มีเปอร์เซ็นต์การป้องกันรังสีอินฟราเรดสูง จะยิ่งป้องกันความร้อนได้ดี
- โดยปกติแล้วฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มมาก มักจะกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ได้ดีกว่าฟิล์มกรองแสงสีใส เนื่องจากในแสงสว่างนั้นก็จะมีความร้อนแฝงอยู่ด้วย ดังนั้นฟิล์มที่มีดำเข้มกว่าส่วนมากจะกันความร้อนได้ดีกว่า
- ถ้าคุณสมบัติอื่นๆเหมือนกัน ฟิล์มที่เข้มกว่า ก็จะสามารถกันร้อนได้ดีกว่าฟิล์มใสนั่นเอง
3. พิจารณาทัศนวิสัยการมองเห็นจากภายในรถยนต์ หลังติดฟิล์ม
- ความปลอดภัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ต้องคำนึงถึงก่อนที่จะตัดสินใจเลือกฟิล์มรถยนต์ โดยปกติแล้วฟิล์มที่มีความเข้มมากหรือแสงส่องผ่านได้น้อยมักจะทำให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ลดลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสายตาของผู้ขับขี่เองด้วย
ถ้าผู้ขับขี่มีปัญหาด้านสายตาหรือสายตาสั้นก็ควรจะเลือกฟิล์มที่มีความเข้มในระดับไม่เกิน 60%
- การสะท้อนแสงของฟิล์มกรองแสงก็มีผลกระทบต่อทัศนวิสัยของผู้ขับขี่เช่นกัน ไม่ว่าจะเลือกติดฟิล์มรถยนต์แบบไหนดี ก็ควรเลือกฟิล์มที่ไม่สะท้อน หรือเงาจนเกินไป เพราะจะรบกวนการมองเห็นของผู้ขับขี่ทั้งด้านในและด้านนอก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ ดังนั้น ฟิล์มกรองแสงจำพวกฟิล์มดำเซรามิค หรือฟิล์มใสกันร้อน จะให้ทัศนวิสัยต่อผู้ขับขี่ที่ดีกว่าฟิล์มปรอท หรือฟิล์มรถยนต์ฉาบสีทั่วไป
4. ดูความสวยงามของรถยนต์หลังติดฟิล์มรถยนต์
- กระจกรถยนต์ ถือเป็นส่วนประกอบหลักที่ผู้บริโภคแทบทุกท่านคำนึงถึง การจะเลือกฟิล์มติดรถอย่างไรให้รถดูดีในสไตล์ที่ชอบจึงต้องคำนึงถึงเฉดสีและเปอร์เซ็นต์การสะท้อนของฟิล์มกรองแสง ซึ่งจะมีผลต่อความสวยงามของรถยนต์หลังติดตั้งด้วย
- โดยส่วนใหญ่แล้วรถยนต์แต่ละสีก็จะเข้ากับเฉดสีของฟิล์มกรองแสงต่างกัน วิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์จึงขึ้นอยู่กับความชอบและรูปทรงของรถยนต์ด้วย แต่ฟิล์มกรองแสงสีดำ หรือที่เรียกกันว่า ฟิล์มดำ สามารถเข้ากับรถยนต์ได้ทุกสีและทุกรูปทรง หลังติดตั้งรถยนต์จะดูโฉบเฉี่ยวและดุดันมากขึ้น รวมถึงจะได้ความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้นอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจรับติดตั้งฟิล์มรถยนต์ หรือเทคนิคการเลือกฟิล์ม
สามารถติดต่อได้ที่